LTF ถือยาวแล้วรวย

ใกล้ปลายปี LTF จะเป็นเรื่องน่าสนใจมากขึ้นสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องเสียภาษี นำตัวอย่างกรณี LTF ของผู้มีเงินเดือน 7 หมื่นบาท bonus 1 เดือน ซึงสามารถซื้อได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ต่อปี โดยกำหนดให้

กด share หน้านี้ใน Line (เปิดจาก smartphone เท่านั้น)

(บทความเขียนและทดสอบในปี 2013 ซึ่ง LTF กำหนดให้ถือ 5 ปีปฏิทิน หรือ 3 ปีแบบส่วนต่างปี แต่ปัจจุบัน LTF ต้องถือ 7 ปีปฏิทิน ผลการทดสอบระหว่าง 5 และ 7 ปีจะมีผลต่างกันแต่ต่างกันไม่มาก ไม่มีนัยยะสำคัญมากพอ เมื่อเทียบกับแบบไม่ขายคืน)

1. SET ทำกำไรทบต้น ROI หรือ CAGR(compound annual growth return) ที่ 13% เพื่อให้สอดคล้องกับ เกษียณรวย
2. ลงทุนต่อเนื่อง 20 ปี ด้วยเงินจำนวน 15% ของ เงินเดือนรวมกับ Bonus
3. ใช้ กลยุทธต่างกัน
• No Redeem ซื้อแล้วไม่ขายคืนเลยตลอด 20 ปี ปล่อยให้กำไรทบต้นลงทุนต่อเนื่อง
• Div5% ถือยาว 20 เช่นกัน แต่เลือก LTF ที่มีปันผล 5%
• Redeem 5yr ไม่ถือยาว เมื่อครบ 5 ปีก็ขายคืน LTF ทั้ง port ที่ครบอายุ แต่ก็ยังลงทุนต่อเนื่องเต็ม 15%

การที่เลือก CARG ของ SET หรือกำไรทบต้นที่ 13% เมื่อย้อนไปดู SET ใน 25 ปีนับจากยุค น้าชาติชาย 2530 พบว่า ตลอด 25 ปี SET มี ROI=7% แต่ถ้า 10 ปีที่ผ่านมามี ROI=10-15% แต่มีข้อน่าสังเกตว่าใน 4 ปีล่าสุดมี ROI มากถึง 33% ถ้าให้เลือกค่ากลางๆ ขอใช้ค่า 10 ปี ที่ ROI=13% ค่ากลางของ 10-15%

ผลตอบแทนรวมได้รวมผลประโยชน์ที่ผู้ลงทุนจะได้แล้วประกอบด้วย เงินต้น+ผลตอบแทนการลงทุน+ภาษีที่ลดได้+เงินปันผล(ถ้ามี ในกรณี div5%)

จากรูป

• Div5,LTF ที่ปันผล 5% หรือ Div5 ให้ผลตอบแทนรวมประมาณ 9 ล้านน้อยกว่าแบบ No redeem ที่ไม่ขายเลย ที่ 11 ล้านอยู่เกือบ 20% แม้ว่า Div5 จะรวมเงินปันผลแล้วก็ตาม
• Redeem 5yr มีผลตอบแทนรวม 4 ล้านน้อยกว่า No Redeem ที่ 11 ล้านครึ่งหนึ่ง จาก เกษียณรวย ผลตอบแทนที่เกิน 9 ล้านบาทจึงจะใช้ได้เพียงเดือนละ 1 หมื่น กลยุทธ Redeem 5yr นี้ไม่ผ่านเกณฑ์ คงมาจากการลงทุนที่จำกัดที่ 15% ของรายได้เงินเดือนรวมโบนัส เมื่อขาย LTF ไปทั้งหมดเมื่อครบอายุ ก็ไม่สามารถทบต้นด้วยเงินก้อนที่ขายได้ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ของกำไรทบต้น ที่ต้องเอากำไรทบต้นลงทุนต่อเนื่อง ถ้าเลือกวิธีนี้มีแต่จนเมื่อแก่

LTF ที่ไม่ปันผล ผู้ลงทุนไม่ขายตลอด 20 ปีมีแต่ซื้อเต็มจำนวนตลอดไป จะเป็นแบบดีที่สุด เนื่องจากความสามารถของกำไรทบต้นนั่นเอง การซื้อแบบนี้มีความใกล้เคียงกับ RMF แต่ LTF เมื่อครบอายุก็ไม่มีใครบังคับให้ขาย ซื้อ LTF ก็ถือยาวได้เช่นกัน หลีกเลี่ยงการขาย LTF เมื่อหมดอายุซึ่งเป็นการ บั่นทอน กำไรอย่างมาก

คลิ๊กที่ภาพเพื่อดูรายละเอียด


LTF แม้ว่าจะเลือกกลยุทธที่ดีสุดแล้วก็อาจไม่ดีเท่าการซื้อหุ้นด้วยตนเองเพื่อให้ ROI>=20% ซึ่งจะเห็นได้ใน เกษียณรวย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะ LTF จะซื้อทั้ง SET ที่มีผลตอบแทนที่ต่ำ มีการถ่วงน้ำหนักหุ้นที่โตมาก โตน้อย ไม่เติบโต หดตัว จึงได้ผลตอบแทนที่ต่ำยากที่จะทำได้ถึง 20%

แม้เงินเดือน 7 หมื่นจะดูมากมีใช้ได้อย่างสบายในขณะที่ทำงาน แต่ถ้าดูปลายทางหลังเกษียณแล้วมีค่าที่ 11 ล้านบาท หรือ 1 หมื่นบาทต่อเดือน ซึงดูเล็กน้อย และอาจไม่เพียงพอใช้ยามแก่ชราแต่อย่างใด ถ้าไม่แก้ไขตั้งแต่ต้นซึ่งอาจทำได้โดยแบ่ง เงินการลงทุนให้มากกว่า 15% ซื้อ RMF เพิ่มซื้อให้เต็ม  หรือหาการลงทุนที่ ROI สูง>20%
กรณี RMF จะซื้อได้เท่ากับ LTF ที่ 15% รวม LTF+RMF=30%, ถ้าซื้อรวม ที่ 20% จะได้ผลตอบแทนรวมที่ 15 ล้าน แต่ถ้าซื้อที่ 30% ได้ผลตอบแทนรวม 23 ล้าน , เงินเฟ้อ 5% จำเป็นต้องมีเงินรวม 16 ล้าน ดังนั้นขึ้นต่ำที่จะ ซื้อ LTF+RMF ควรมากถึง 20% , LTF อย่างเดียวจะไม่เพียงพอ
กรณีที่หา ROI >20% ถ้าซื้อ LTF ที่มีปัจจุบันจะไม่มีกองทุนแบบนั้น กองทุนส่วนมากจะเป็น index fund ที่วิ่งไปตาม SET ที่ผลตอบแทนอยู่ประมาณ 10-15% เท่านั้น จำเป็นที่ต้องสร้างระบบการลงทุนของตนเองขึ้นมา

ทำไมจึงเลือกเงินเดือน 7 หมื่น จากการคำนวณ ที่เงินเดือน 5 หมื่น bonus 1 เดือน LTF มีความสำคัญที่สามารถลดภาษีได้ 10% และถ้าเงินเดือน >=7 หมื่นจะลดได้ถึง 20% ความสามารถการลดภาษีขึ้นอยู่กับ อัตราภาษีแบบขั้นบันไดนั่นเอง เงินเดือนที่ >=7 ถึง 1 แสน ภาษีที่ลดได้ก็ยังคง 20%,5-7 หมื่นจะลดภาษีได้อยู่ที่ 10-18%

*ตัวเลขที่กล่าวถึงในบทความเป็นตัวเลขแบบประมาณการ โดยมีจุดประสงค์ให้เห็นภาพรวมและแนวคิด ซึ่งไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงไม่ว่าทางใด

ติวเตอร์หุ้น

คลิ๊กที่ภาพเพื่อดูรายละเอียด